ลดน้ำหนักด้วยอาหารเสริม
หมอเชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายคนคงเคยมีประสบการณ์กับการใช้ยาลดน้ำหนัก เพราะแม้หมอส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเห็นด้วย เนื่องจากยาลดน้ำหนักมักเป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท กดศูนย์ควบคุมความอยากอาหารในสมอง ทำให้ไม่ค่อยหิวไม่คอยอยาก แต่เพราะไปกดการทำงานของสมองจึงมักทำให้คนไข้มีอาการหงุดหงิดจิตไม่ค่อยจะเป็นสุข บางคนถึงขนาดประสาทหลอนกันไปเลยก็มี คอแห้ง ปากแห้ง หิวน้ำทั้งวัน แต่ที่สำคัญก็คือใช้ไปได้สักระยะก็จะเกิดภาวะดื้อยาต้องเพิ่มปริมาณยามากขึ้น จากวันละเม็ด เป็นวันละสองสามและสี่เม็ดในที่สุด ยาไม่มีผลช่วยในการควบคุมความอยากอาหารอีกต่อไป ดังนั้นการใช้ยาลดความอ้วนจึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์จริง ๆ ไม่ใช่ฝากเพื่อนซื้อแอบขโมยเพื่อนกิน หรือไปลักลอบซื้อตามร้านขายยา ยาลดความอ้วนนั้นเก็บไว้สำหรับคนที่อ้วนมาก อ้วนชนิดที่เรียกว่าหากไม่ลดความอ้วนละก็ จะต้องตายจากความอ้วนนั้นแน่ ๆ เพราะคนไข้กลุ่มนี้ขาดแรงใจที่จะลดน้ำหนักด้วยตัวเองจึงจำเป็นต้องใช้ยาช่วย แต่คนส่วนใหญ่นั้นต้องการขจัดไขมัน ส่วนเกินเพียงแค่ 5-10 กิโลกรัม ใช้วิธีธรรมชาติกันดีกว่า บางครั้งหมออาจจะยอมให้ใช้ผู้ช่วยง่าย ๆ จำพวกอาหารเสริมบางชนิด ซึ่งได้ผลมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป ลองมาดูกันซิคะว่าเราใช้อะไรได้บ้าง
.........................................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน
.........................................................................................................
1. อาหารเสริมดั้งเดิมที่ใช้เป็นผู้ช่วยในการลดน้ำหนัก ได้แก่ เส้นใยอาหาร หรือไฟเบอร์ ซึ่งมีชนิดที่ละลายในน้ำ พองเป็นเจลลี่เต็มท้อง กับชนิดที่ไม่ละลายในน้ำ แต่ช่วยเพิ่มกากให้ระบบขับถ่ายทำงานดี เดิมทีนั้นเส้นใยอาหารหรือไฟเบอร์ ถูกนำมาใช้รักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาท้องผูก ช่วยเพิ่มกากในลำไส้ใหญ่ ทำให้มีจำนวนอุจจาระมากพอที่จะไปกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ให้ระบบขับถ่ายทำงานตรงตามเวลา แต่แล้วก็พบว่าเส้นใยอาหารนั้นหากรับประทานก่อนมื้ออาหารสัก 15 นาที หรือครึ่งชั่วโมง ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วเป็นการลดปริมาณพื้นที่ในกระเพาะอาหารลง รับประทานได้น้อยลง แทนที่จะข้าวชาม ก๋วยเตี๋ยวน้ำอีกหนึ่ง ก็อาจจะลดลงมาเหลือเพียงแค่อาหารจานเดียวก็อิ่มอยู่ท้องได้พอประมาณ ที่สำคัญงานวิจัยยังพิสูจน์ได้ว่า เส้นใยอาหารหลายชนิด ทั้งจากมันบุก จากข้าวโอ๊ตสามารถช่วยลดการดูดซึม ไขมันคอเลสเตอรอลและน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้อีกด้วย การใช้ไฟเบอร์นั้นค่อนข้างจะปลอดภัย เพราะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด แม้กระทั่งคนท้องหมอก็ยังสามารถให้ใช้เส้นใยอาหารช่วยลดปัญหาท้องผูกได้โดยไม่ต้องหวั่นเกรงว่าจะเป็นอันตรายถึงทารกน้อย ราคาของเส้นใยอาหารส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่เม็ดหนึ่งตั้งแต่ 3-5 บาท รับประทานได้วันหนึ่ง 10-20 เม็ด แบ่งเป็นก่อนอาหารมื้อละ 4-6 เม็ด หรือแม้ในยามที่ท้องว่าง หรือบางครั้งจะใช้เส้นใยอาหารประเภทชงดื่ม อย่างพวกกากจากเม็ดแมงลัก ก็ใช้ได้เหมือนกันนะคะ ราคาไม่แพงค่าใช้จ่ายตกอยู่ที่วันหนึ่งไม่กี่สิบบาทเท่านั้น
2. ไคโตซาน ซึ่งเป็นเส้นใยหรือเยื่ออาหารอีกชนิดหนึ่ง แต่ไม่ได้มาจากพืชเหมือนไฟเบอร์ แต่มาจากเปลือกกุ้ง กระดองปู ไคโตซานนั้นสามารถช่วยดักจับไขมันเอาไว้ด้วยโครงสร้างที่มีลักษณะเหมือนฟองน้ำ มีรูพรุนให้ไขมันมาเกาะติด จึงสามารถลดปริมาณไขมันที่จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย โดยไคโตซานจะดูดซับจับไขมันได้ตั้งแต่ 2 ถึง 10 เท่าของน้ำหนักตัว ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่มากมาย เพราะหากคุณรับประทานไคโตซานมื้อละ 1 กรัม ก็จะจับไขมันได้ประมาณ 5-10 กรัม ลดพลังงานอาหารได้ 45-90 แคลอรี่ ใช้ได้ปลอดภัย เพราะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเช่นเดียวกับไฟเบอร์ แต่ราคาสูงกว่า แต่ก็ยังอยู่ในระดับหลัก 10 ไม่ถึง 100 บาท ต่อวัน
3. สารสกัดจากถั่วขาว อันนี้ใช้ดักจับพวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง ซึ่งก็จับได้ไม่มากเท่าไร แต่อย่างน้อยก็ช่วยลดปริมาณของการสะสมแป้งเข้าสู่ร่างกาย ในปัจจุบันมีอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของไฟเบอร์หลากหลายชนิด ไคโตซาน และ สารสกัดจากถั่วขาว จึงช่วยดักจับทั้งแป้งน้ำตาลและไขมัน แต่งานวิจัยส่วนใหญ่พบว่า แม้จะให้คนไข้รับประทานอาหารเสริมพวกนี้เป็นประจำทุกวัน แต่หากไม่ได้ควบคุมอาหารและไม่ได้ออกกำลังกาย ก็มักจะไม่เห็นผลในการลดน้ำหนักตัว แต่ถ้าควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และได้ใช้อาหารเสริมพวกดักจับไขมันและแป้งด้วย ก็จะพบว่าน้ำหนักลดลงได้เร็วกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับอาหารเสริมชนิดนี้
4. ยังมียาที่ช่วยลดการดูดซึมไขมันเข้าสู่ร่างกาย โดยการออกฤทธิ์ของยากลุ่มนี้ ไม่เหมือนเส้นใยอาหารที่ไปดักจับไขมัน แต่ตัวยาจะไปป้องกันการดูดซึมไขมันผ่านผนังลำไส้ จึงทำให้มีน้ำมันปนเปื้อนมากับของเสียอื่น ๆ และเมื่อขับถ่ายออกมาคุณก็จะสามารถมองเห็นน้ำมันลอยฟูฟ่องอยู่ในโถส้วมด้วย ซึ่งบางคนก็ชอบ เพราะเห็นน้ำมันส่วนเกินออกมาจริง ๆ จัง ๆ จับต้องได้ แต่หลายคนก็ไม่ชอบเพราะค่อนข้างจะเลอะเทอะเปรอะเปื้อน แถมมีกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกต่างหาก บางคนลำบากถึงขนาดต้องกลั้นการผายลม มิฉะนั้นอาจเปื้อนชั้นในได้ หรือไม่ก็ต้องใส่ผ้าอนามัยผู้ใหญ่ ป้องกันการหลุดรั่วของไขมัน นับเป็นความไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไร แต่ได้ผลดีถ้าหากอาหารมื้อนั้นคุณหนีไม่พ้นอาหารมัน ๆ อย่างไปรับเลี้ยงโต๊ะจีน หรือไปรับประทานบุฟเฟ่ต์ ราคายาค่อนข้างสูงสักนิดหนึ่ง แต่ก็ใช้ได้ปลอดภัยพอสมควร
5. อาหารเสริม ซีแอลเอ ซึ่งย่อมาจาก conjugated linoleic acib ซึ่งเป็นกรดไขมันอีกชนิดหนึ่ง ที่ไปขัดขวางขบวนการสะสมไขมันในร่างกายและเร่งการใช้พลังงาน มีงานวิจัยสนับสนุนอยู่บ้างแต่เช่นกันหากใช้ ซีแอลเอ โดยไม่ทำอะไรเลยไม่ออกกำลังกายเลย ก็จะไม่เห็นผลในการลดน้ำหนัก แต่จะได้ผลดีในคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ และใช้ซีแอลเอช่วยด้วยก็จะสลายไขมันได้เร็วยิ่งขึ้น
6. อาหารเสริมสารสกัดจากส้มแขก ซึ่งเคยฮอทฮิตเมื่อ 10 ปีก่อน ปัจจุบันก็ยังพอหาได้ประปราย มีคุณสมบัติลดการเปลี่ยนแป้งไปเป็นไขมันสะสม เรียกว่ารับประทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลเข้าไปก็จะพยายามเร่งใช้ออกไปให้หมดไม่เหลือสะสมไว้เป็นไขมัน ได้ผลพอสมควรในคนที่ชอบรับประทานอาหารจำพวกแป้ง แต่เช่นกันอาหารเสริมเหล่านี้จะได้ผลดีเมื่อคุณควบคุมอาหารและออกกำลังกายไปด้วยกันเสมอ
7. สารสกัดจากพริก แคพไซซีน ว่ากันว่า ความเผ็ดร้อนของ แคพไซซีนจากพริกนั้นไปกระตุ้นเมตาโบลิซึม หรือเร่งการเผาพลาญพลังงานให้กับร่างกาย โดยเฉพาะหากใช้ควบคู่ไปกับชาเขียวที่มีคุณสมบัติแอนตี้ออกซิเดนท์ แต่หมอว่าสารสกัดจากพริกและชาเขียวนั้น หากใช้ในรูปของครีมทาถู ทาถู เพื่อช่วยสะลายเซลลูไลท์ ให้ผิวหนังดูเรียบเนียนขึ้น น่าจะได้ผลดีกว่าชนิดรับประทาน เพราะแม้งานวิจัยจะอ้างอิงว่า คนที่ชอบรับประทานเครื่องเทศเผ็ดร้อน มักจะมีน้ำหนักตัวคงที่ หรือไม่ค่อยจะเป็นคนอ้วน เพราะแคพไซซีน ช่วยกระตุ้นการใช้พลังงาน แถมเวลากินอาหารเผ็ดร้อน คุณต้องใช้พลังงานมากขึ้น ก็เสียเหงื่อออกปานนั้น ก็น่าจะมีผลอยู่บ้าง แต่พอมาเป็นรูปของอาหารเสริมสกัดใส่แคปซูลปริมาณของแคพไซซีนมักจะไม่สูงเท่ากินส้มตำใส่พริกเผ็ด ๆ หรอกนะคะ
8. คาเฟอีน ทั้งที่อยู่ในรูปของกาแฟ ชาจีนหรือสารสกัดออกมาเป็นอาหารเสริมชนิดเม็ด พบว่าคาเฟอีนไปกระตุ้นการทำงานของร่างกาย กระตุ้นเมตาโบลิซึม จนบางคนมีอาการใจสั่นเพราะไปกระตุ้นหัวใจให้เต้นแรงขึ้น ชีพจรพุ่งสูงขึ้น การเผาผลาญพลังงานในร่างกายก็น่าจะมีประสิทธิภาพดีขึ้น แต่การใช้สารคาเฟอีนนาน ๆ นั้น มีข้อควรระวังด้วยนะคะ เพราะบางคน อาจมีภาวะใจสั่น หรือนอนไม่หลับต่อเนื่องกันไปนาน ๆ จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวได้ สารคาเฟอีนยังมีผลช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงแรก เพราะคาเฟอีนปริมาณมาก ๆ นั้น เป็นยาขับปัสสาวะ เมื่อร่างกายขับถ่ายน้ำออกไปวัน 1-2 วันแรกน้ำหนักอาจจะลดลงได้แล้ว 1-2 กิโลกรัม
9. สารสกัดจากกระบองเพชร Hoodia ซึ่งถือว่าเป็นสมุนไพรพื้นบ้านของชาวอัฟริกัน ที่บางครั้งเมื่อต้องเดินอยู่ในทะเลทรายเขาจะใช้วิธีเคี้ยวต้นกระบองเพชรบางชนิดเพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำเข้าไป และก็พบว่ามีสารสำคัญที่ช่วยระงับความหิวอาหาร ทำให้สามารถเดินฝ่าดงทะเลทรายหลุดรอดมาได้ อาหารเสริมชนิดนี้บ้านเราไม่มี ในต่างประเทศกำลังได้รับความสนใจกันพอประมาณ เพราะมีงานวิจัยสนับสนุน แต่เช่นกันถ้าจะให้ดีใช้ควบคู่ไปกับการเลือกกินอาหารและออกกำลังกายนะคะ
10. ชาสมุนไพร ใบมะขามแขก นับว่าเป็นอาหารเสริมลดความอ้วนดึกดำบรรพ์ชนิดหนึ่ง เพราะเป็นยาระบายอย่างอ่อน บางคนถ่ายเสียจนเสียแร่ธาตุออกไปจากร่างกายมากจนเป็นลมเป็นแล้ง ชาใบมะขามแขกนั้นมีคุณสมบัติลดน้ำหนักชั่วครั้งชั่วคราว เพราะเป็นเรื่องของยาระบายเร่งระบบขับถ่าย หากใช้ต่อเนื่องกันนานๆ นอกจากจะมีผลให้ร่างกายสูญเสียแร่ธาตุแล้ว ยังมีผลให้ลำไส้ใหญ่ไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง สุดท้ายหยุดเมื่อไรกลายเป็นท้องผูกมากกว่าเดิม จึงไม่ควรใช้ต่อเนื่องเป็นประจำ เอาไว้ใช้รักษาปัญหาท้องผูกเป็นครั้งเป็นคราวดีกว่าดื่มทุกวันเพื่อขจัดไขมันส่วนเกินนะคะ
สรุปแล้วอาหารเสริมตามธรรมชาติแต่ละชนิด สามารถใช้ได้ตามสมควร แต่ถ้าจะให้ดีเลือกที่ไม่มีผลต่อร่างกายในระยะยาว หรืออย่างน้อยก็ปรึกษาแพทย์ประจำตัวเสียก่อนนะคะว่า คุณมีโรคประจำอะไรที่จะต้องระมัดระวังการใช้อาหารเสริมเหล่านี้หรือไม่ แม้จะเป็นแค่อาหารเสริม แต่ก็อย่าวางใจใช้ด้วยความระมัดระวังจะดีกว่าค่ะ
บทความโดย
Pakpilai Thavisin, M.D.
S Medical Spa
|