ประเภทของการนวด
กับอโรมาเทอราปี
การนวดเป็นรูปแบบของการบำบัดรักษาโรคที่เก่าแก่ ซึ่งจะช่วยผ่อนคลาย และทำให้ร่างกายปราศจากความเครียด รู้สึกปลอดโปร่งขึ้นการนวดจะทำให้กล้ามเนื้อกระชับและเป็นการกระตุ้นเส้นประสาท การไหลเวียนของเลือดและเป็นการขจัดสารพิษในระบบต่อมน้ำเหลือง การนวดไม่เพียงแต่ให้ความผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความใกล้ชิดระหว่างกันและกันอีกด้วย
ปัจจุบันการนวดยังนำศาสตร์อื่นๆ เข้ามาช่วยในการนวดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น นวดด้วยครีม เพื่อคลายกล้ามเนื้อหรือเพื่อบำบัดโรค นวดด้วยครีมหรือโลชั่นบำรุงผิว เพื่อความงาม และนวดด้วยนำน้ำมันหอมระเหยเพื่อให้ผ่อนคลายสบายใจขึ้น สำหรับการนวดที่นำมาใช้ควบคู่กับน้ำมันหอมระเะหยนั้นมีด้วยกันหลายตำรับ ซึ่งมีที่มาแตกต่างกันไปดังนี้
1. Thai massage หรือ การนวดแผนไทยโบราณ
ซึ่งการนวดเป็นศาสตร์และศิลป์สาขาหนึ่งของการแพทย์แผนโบราณไทย การนวดไทนจะเป็นการนวดที่มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง เพราะผู้ที่ทำการนวดจะต้องมีความรู้ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติที่แตกต่างจาการนวดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการนวดโดยการกด การคลึง การดัดดึง การประคบ โดยการใช้ฝ่ามือและนิ้วกดตามจุดที่สำคัญต่างๆ บริเวณกล้ามเนื้อ ข้อต่ด และเส้นเอ็นทั้งร่างกาย อีกทั้งยังรวมไปถึงเทคนิคการนวดให้กับผู้สูงอายุในการยืดเส้นและการงอตัว เพื่อลดความอ่อนล้าและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ในขณะเดียวกันยังช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้นอีกด้วย การนวดไทยได้รับการสืบทอดมามากกว่าหนึ่งพันปี ซึ่งการนวดอย่างถูกวิธีเป้นประจำ จะเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตทั้งร่างกาย ยืดเส้นเอ้นที่ตึงให้หย่อนลง ทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงเครียดจากชีวิตประจำวันผ่อนคลาย และรักษาความยืดหยุ่นของข้อต่อไม่ให้ติอขัด ทั้งยังช่วยให้การทำงานของเนื้อเยื่อต่างๆดีขึ้น การนวดจึงมีผลในการสร้างเสริมสุขภาพ และทำให้มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น
- การนวดแบบราชสำนัก
หมายถึงการนวดเพื่อถวายกษัตริย์ แจ้านายชั้นสูง เป็นการนวดที่ต้องอาศัยความปราณีตและสุภาพ ใช้อวัยวะน้อยและตรงจุดจริงๆ
- การนวดแบบเชลยศักดิ์
หมายถึงการนวดแบบพื้นบ้านทั่วไป มีการสืบทอดกันมาตามวัฒรธรรมของแต่ละท้องถิ่น
2. Swedish Massage หรือการนวดแบบสวีดีช
การนวดวิธีนี้เป็นเทคนิคเฉพาะของกสรนวดแบบยุโรป โดยนวดบริเวณกล้ามเนื้อและส่วนของเนื้อเยื่อรวมกับการใช้น้ำมันหอมระเหย ซึ่งจะช่วยให้ระบบหมุนเวียนของโลหิตในร่างกายดีขึ้น ลดความตึงเครียด เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและผิวหนัง ทำให้ร่างกายพักผ่อนได้เต็มที่
3. Jet-Lag Massage
หรือการนวดผ่อนคลายสำหรับนักเดินทาง
เป็นการนวดที่เหมาะสำหรับผู้ที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดและรู้สึกสบายทั้งใบหน้า ร่างกาย รวมถึงมือ เท้า คอ และไหล่ อาการเหนื่อยล้าจากการเดินทางเกิดขึ้นได้เสมอ และเมื่อมีการเดินทางร่างกายจะต้องปรับตัวให้เข้ากับเวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมีผลต่อการนอนหลับไม่เต็มอิ่ม การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เบื่ออาหาร หรือการปรับตัวในการรับประทานอาหาร โดยการนวดนี้จะช่วยให้ร่างกายมีการปรับตัวเข้ากับเวลาที่ปรับเปลี่ยนไปได้อย่างเหมาะสม
4. Men's Rubdown หรือการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
การนวดประเภทนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ สำหรับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และออกกำลังกายอยู่อย่างสม่ำเสมอ การนวดประเภทนี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดศรีษะ และปวดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล้กน้อยจากการออกกำลังกาย อาการเครียดที่เกิดขึ้นอยู่เป้นประจำ และผู้ที่มีปัญหาทางสภาพร่างกายเฉื่อยชา ขาดความกระตือรือร้น การนวดนี้จะช่วยให้ระบบของโลหิตรวมถึงระบบน้ำเหลืองดีขึ้น
......................................................................................
โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน
......................................................................................
5. Phyto-Aroma Massage
หรือการนวดโดยใช้กลิ่นหอมบำบัด
การนวดด้วยวิธีนี้จะเป็นการใช้กลิ่นของน้ำมันระเหยสมุนไพรในการบำบัด เพร้อมกับการนวดแบบสัมผัสเพียงแผ่วเบา เพื่อให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย ปลอดโปร่งโล่งสบาย ซึ่งจะมีกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยให้เลือกใช้ตามอาการ คือ
- Brich Arnica Body Massage Oil ที่ชาวยลดอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อและกระดูก
- Lavender Body massaage Oil ช่วยผ่อนคลายและทำให้สดชื่น
- Relaxation Body Massage Oil ช่วยผาอนคลายความตึงเครียด ทำให้รู้สึกถึงการพักผ่อนอย่างเต็มที่
- Asian Blend Body Massage Oil ช่วยกระตุ้นความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ช่วยให้จิตใจสงบ ลดความตึงเครียด มีกลิ่นหอมชื่น
- Jet-leg Body Massage oil ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ปรับความสมดุลของร่างกาย และช่วยให้จิตใจสงบ เหมาะสำหรับเวลาเดินทาง
- Sandalwood Body Massage Oil ช่วยผ่อนคลายความเครียด นอนไม่หลับ ไอ ช่วยระบบการหายใจ เหมาะสำหรับนวดหน้าผู้ชายโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผิวแห้งจากวัยชรา และผิวที่สูญเสียน้ำ
6. Craniosacral Massage หรือ การนวดกะโหลกศีรษะ
การนวดด้วยวิธีนี้จะช่วยลดความตึงเครียดในสภาวะปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานในร่างกายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยังทำลายสุขภาพอีกด้วย การนวดกะโหลกศีรษะจะช่วยให้เกิดความสมดุลของระบบประสาท และระบบการทำงานของกะโหลกศีรษะไปจนถึงบริเวณก้นกบ ซึ่งเต็มไปด้วยของเหลวและเนื้อเยื่อบริเวณล้อมรอบ เพื่อช่วยป้องกันกระดูกวันหลัง โดยเฉพาะกระดูกของกะโหลกศีรษะ กระดูกส่วนใบหน้าและปาก กระดูกเหล่านี้จะประกอบกันเพื่อเป็นรูปร่างของกะโหลกศีรษะ ลงไปสู่กระดูกส่วนหลังหรือก้นกบ ระบบสรีระเริ่มต้นด้วยการทำงานในมดลูก และต่อเนื่องตามลำดับ จนกระทั่งถึงวันสิ้นสุดแห่งชีวิต ด้วยการเพิ่มความสมดุลให้กับระบบประสาท โดยจะรู้สึกสบายผ่อนคลาย ในระหว่างที่ทำการนวดจะมีการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ช่วยบรรเทาอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ ช่วยกระตุ้นระบบประสาท และช่วยผ่อนคลาย กระชับกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการอื่นๆ เช่น อาการหน้ามืด การปวดคอ และหลังเรื้อรัง ข้ออักเสบ อาการนอนไม่หลับ โรคหืด อาการเฉื่อยชา อาการปวดประจำเดือน ไมเกรน ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น
7. Ayurvedic Massage หรือการนวดแบบอินเดียโบราณ
ซึ่งคำว่า Ayurveda เป็นภาษาสันสกฤต ซึ่งหมายถึงศาสตร์แห่งชีวิต เป็นการมองชีวิตแบบรอบด้าน ทั้งในส่วนของร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณ โดยเป็นการรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวม ไม่ใช่มุ่งแต่รักษาโรคเพียงอย่างเดียว วิธีการที่ใช้ยังรวมถึงการใช้สมุนไพร อาหาร และกิจกรรมต่างๆ เช่นการนวด การทำสมาธิและโยคะ การนวดประเภทนี้นับว่าเป้นเทคนิคการนวด ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายปราศจากสารพิษตกค้าง ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง ผ่อนคลายความเครียดและความกังวล ด้วยส่วนผสมจากสมุนไพรโบราณและน้ำมันหอมระเหยเพื่อการกำจัดสารพิษในร่างกายได้ดีขึ้น และบรรเทาอาการเจ็บของกล้ามเนื้ออีกด้วย....
♦เรียบเรียงบทความ "ประเภทของการนวดกับอโรมาเทอราปี"
โดยกองบรรณาธิการ
www.YesSpaThailand.com
|